การทำโฆษณาที่ดีต้องมีการวัดผลอยู่เสมอ เพื่อปรับปรุงผลลัพธ์ของโฆษณาให้ได้ผลดียิ่งขึ้น และปิดจุดอ่อนของโฆษณาให้ได้มากที่สุด ในการวัดผล สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือต้องเข้าใจก่อนว่าค่าบ่งชี้ที่แสดงเป็นตัวเลขต่า
งๆ สื่อถึงผลลัพธ์อะไรบ้าง เพื่อที่เราจะสามารถนำไปต่อยอดวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถวัดผลได้ ไม่คิดเองเออเอง หรือใช้ความรู้สึกล้วนๆ ในการประเมินผลโฆษณานั่นเอง
สำหรับคำศัพท์ที่เราจะหยิบยกมาอธิบายให้เข้าใจในวันนี้ ถือเป็นคำศัพท์พื้นฐาน ที่ใครก็ตามหากต้องการเข้ามาในวงการโฆษณาหรือการตลาดออนไลน์ทุกคน ก็ควรจะรู้เอาไว้ มาทำความเข้าใจกันเลย
- Impression (การแสดงผล) : Impression หมายถึง จำนวนครั้งที่โฆษณาหรือเนื้อหาถูกแสดงบนหน้าจอโดยไม่คำนึงว่าผู้ชมดูหรือไม่ดู มันเป็นการวัดจำนวนการแสดงผลเท่านั้น
- Reach (การเข้าถึง) : Reach คือ จำนวนคนหรือกลุ่มเป้าหมายที่เห็นโฆษณาหรือเนื้อหาในระยะเวลาที่กำหนด ค่านี้ไม่นับการแสดงผลซ้ำจากบุคคลเดิม
- Frequency (ความถี่) : Frequency คือ จำนวนครั้งที่โฆษณาแสดงต่อบุคคลหรือกลุ่มเป้าหมายในระยะเวลาที่กำหนด สัมพันธ์ระหว่างการแสดงผลและจำนวนคนที่เข้าถึง
- CPA (Cost Per Acquisition – ราคาต่อการเข้าถึง) : CPA คือ ราคาที่คุณจ่ายในการดึงลูกค้าหรือกระทำที่คุณต้องการจากการโฆษณา คำนวณโดยการหาราคาใช้จ่ายด้วยจำนวนการดำเนินการ Action ที่เป็นเป้าหมาย
- CTR (Click-Through Rate – อัตราส่วนการคลิก) : CTR คือ อัตราส่วนระหว่างจำนวนครั้งที่ผู้ชมคลิกโฆษณาและจำนวนการแสดงโฆษณา มันบ่งบอกถึงความเป็นไปได้ที่ผู้ชมจะคลิกโฆษณาเมื่อเห็น
- CPC (Cost Per Click – ราคาต่อคลิก) : CPC คือ ราคาที่คุณจ่ายในแต่ละครั้งที่มีผู้ชมคลิกโฆษณา มันช่วยวัดค่าใช้จ่ายในการดึงคลิก
- ROAS (Return on Ad Spend – อัตราผลตอบแทนที่ได้จากโฆษณา) : ROAS คือ อัตราส่วนระหว่างรายได้ที่ได้จากการโฆษณาและค่าใช้จ่ายในการโฆษณา ใช้วัดความสำเร็จของการลงทุนในโฆษณาว่าได้กำไรหรือขาดทุน
คำศัพท์เหล่านี้เป็นคำศัพท์ที่สำคัญในการวัดและประเมินประสิทธิภาพของการโฆษณาออนไลน์ การเข้าใจความหมายและการใช้งานอย่างถูกต้องของคำศัพท์เหล่านี้ จะสามารถช่วยให้คุณเข้าใจตัวเลขที่แสดงผล และนำไปปรับปรุง ปรับแก้แผนการตลาด และชิ้นงานโฆษณาของคุณให้เหมาะสมและมีผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้