Customer Path 5A เป็นแนวคิดที่ถูกพัฒนาโดย Philip Kotler ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดระดับโลก โดยมุ่งเน้นไปที่การวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภคในโลกดิจิทัลที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงเร็ว
โมเดลนี้ช่วยให้แบรนด์สามารถวางกลยุทธ์ที่ครอบคลุมทั้งเส้นทางของลูกค้า ตั้งแต่เริ่มรู้จักแบรนด์ไปจนถึงการกลายเป็นผู้สนับสนุน (Brand Advocate)
1. Aware (รับรู้) – สร้างการรับรู้แบรนด์
ลูกค้าเริ่ม “รับรู้” การมีอยู่ของแบรนด์ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น โฆษณา รีวิว การพูดถึงจากเพื่อน หรือ Influencer
ตัวอย่าง: เจอโฆษณาเสื้อผ้าบน TikTok หรือ IG Story จาก Influencer ที่ติดตามอยู่
กลยุทธ์ที่ควรใช้ในขั้นนี้:
- โฆษณาแบบ CPM เพื่อกระจายการมองเห็น (เช่น Facebook Ads, YouTube Pre-roll)
- ใช้ KOL / Influencer สร้าง Awareness ให้แบรนด์
- SEO / SEM เพื่อให้ปรากฏในการค้นหาครั้งแรก
2. Appeal (สนใจ) – สร้างความน่าสนใจให้แบรนด์
เมื่อผู้บริโภครับรู้แบรนด์แล้ว จะเกิดความ “สนใจ” หากแบรนด์มีจุดเด่นที่ดึงดูดใจ เช่น สไตล์ที่ตรงกับตัวตน ราคาเข้าถึงได้ หรือคอนเซ็ปต์ที่โดนใจ
ตัวอย่าง: เข้าไปดู IG แล้วชอบโทนสี ภาพสินค้า หรือแนวคิดของแบรนด์
กลยุทธ์ที่ควรใช้ในขั้นนี้:
- เนื้อหาภาพสวย / วิดีโอดึงดูดสายตา
- คอนเทนต์บนโซเชียลที่สะท้อนตัวตนแบรนด์
- การใช้ UGC (User-Generated Content) เช่น รีวิวลูกค้าเก่า
3. Ask (ค้นหาเพิ่มเติม) – ลูกค้าเริ่มหาข้อมูลเพื่อเปรียบเทียบ
เมื่อลูกค้าเริ่มสนใจ พวกเขาจะเริ่ม “หาข้อมูลเพิ่มเติม” เช่น อ่านรีวิว คอมเมนต์ หรือสอบถามจากคนใกล้ตัว
ตัวอย่าง: เข้าไปดูรีวิวใน Twitter หรือดู YouTube เปรียบเทียบคุณสมบัติสินค้า
กลยุทธ์ที่ควรใช้ในขั้นนี้:
- ทำคอนเทนต์รีวิว เช่น บทความ รีวิวสินค้า หรือวิดีโอแนะนำวิธีใช้
- ตอบคำถามลูกค้าในช่องคอมเมนต์/DM อย่างรวดเร็ว
- เปิดให้ลูกค้าเก่าแสดงความคิดเห็น (Review & Rating)
4. Act (ตัดสินใจซื้อ) – เปลี่ยนผู้สนใจเป็นลูกค้า
เมื่อมั่นใจแล้ว ลูกค้าจะ “ลงมือซื้อ” ไม่ว่าจะเป็นผ่านเว็บไซต์ แอป หรือหน้าร้าน
ตัวอย่าง: กดสั่งซื้อสินค้าผ่าน Shopee หรือ IG Shop
กลยุทธ์ที่ควรใช้ในขั้นนี้:
- ทำโปรโมชั่นเฉพาะกิจ เช่น Flash Sale / คูปองส่วนลด
- สร้างความสะดวกในการสั่งซื้อ เช่น ปุ่ม Buy Now / การชำระเงินหลายช่องทาง
- การ Retarget ลูกค้าที่เคยดูสินค้าแต่ยังไม่สั่งซื้อ
5. Advocate (บอกต่อ/สนับสนุน) – แบรนด์กลายเป็นที่รัก
หากลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดี พวกเขาจะ “บอกต่อ” เช่น แชร์ลง Story เขียนรีวิว หรือแนะนำให้เพื่อน
ตัวอย่าง: ถ่ายรูปใส่เสื้อผ้าจากแบรนด์แล้วแท็กใน IG พร้อมรีวิวในแคปชัน
กลยุทธ์ที่ควรใช้ในขั้นนี้:
- สร้างระบบ Loyalty หรือ Referral Program
- สร้าง Community เช่น กลุ่ม Facebook ของลูกค้า
- ให้ของขวัญเล็ก ๆ แก่ลูกค้าที่บอกต่อ เช่น ส่วนลดรอบหน้า
สรุป Customer Journey 5A
เส้นทางของลูกค้าในยุคดิจิทัลไม่ใช่เส้นตรงอีกต่อไป แต่ประกอบด้วย 5 ขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกัน:
Aware → Appeal → Ask → Act → Advocate
จาก “รู้จัก” → “สนใจ” → “หาข้อมูล” → “ซื้อ” → “บอกต่อ”
การเข้าใจ Customer Path 5A ช่วยให้แบรนด์สามารถวางแผนการตลาดที่แม่นยำ ครอบคลุมทุกจุดสัมผัสของลูกค้า (Customer Touchpoints) และสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจในทุกขั้นตอน
ทำไมแบรนด์ควรใช้โมเดล 5A ในการวางแผนการตลาด?
- เห็นภาพรวมของเส้นทางลูกค้าได้ชัดเจน
- วางกลยุทธ์การตลาดที่ตอบโจทย์แต่ละเฟส
- วัดผลได้ในแต่ละขั้นผ่าน KPIs เช่น CTR, CVR, UGC, Repeat rate
- เชื่อมโยงการตลาดแบบ Funnel + Engagement ได้อย่างเป็นระบบ